การควบคุมความเสี่ยง

การดูแลเรื่องสุขภาพ 

แน่นอนที่สุดคือร่างกายต้องแข็งแรง เรามีประกันความเสี่ยงให้กับตนเองอย่างไรบ้าง เช่น การตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ การออกกำลังกาย การเตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับยามเจ็บป่วย (โดยใช้ประกันชีวิต,บัตรสวัสดิการ,เงินสด) ต่างๆเป็นต้น รวมไปถึงการรับรู้ว่าโรคต่างๆที่เราอาจจะเป็นเราจะดูแลอย่างไร

การดูแลเรื่องการเงินส่วนตัว

การเตรียมภาวะกระแสเงินสดสำหรับชีวิตตัวเอง เราได้กำหนดแบ่งไว้แบบไหน เงินสดหมุนเวียน เงินออม เงินลงทุน เงินฉุกเฉิน เพราะขาดเงินเราจะมีปัญหาตามมามากมายเลยทีเดียว แต่หากรู้ว่าจะมีเงินเท่าไหร่จะช่วยให้ปัญหาที่มากมายได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

การดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย

การมีบ้านที่อยู่อาศัยที่ดีย่อมทำให้เรามีความสุขและมีที่หลบภัยที่ดี แต่บ้านก็ต้องมีการดูแล ยิ่งบ้านใหญ่ก็ยิ่งต้องดูแลมาก ประกันภัยต่างๆมีไหม เงินสดสำหรับซ่อมแซม อุปกรณ์หรืออาคารที่เสื่อมสภาพลง อย่าปล่อยให้บ้านพังแล้วบอกว่าไม่มีเงินซ่อมอีกต่อไป

การดูแลเรื่องยานพาหนะ

เพื่อให้การเดินทางสะดวกขึ้นต้องมียานพาหนะ แต่ยานพาหนะนั้นต้องมีการดูแล ไม่ว่าจะเป็นประกันภัย ค่าบำรุงรักษาตามระยะ ค่าน้ำมัน (ไม่รวมค่าตกแต่งรถ) เพราะเราต้องใช้ร่วมกับคนอื่น อย่าให้เราไปเป็นปัญหาของคนอื่นเลย ที่สำคัญการเลือกใช้ยานพาหนะให้เหมาะสมกับชีวิตจะเป็นการดีและประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด ไม่ต้องคันใหญ่เกินไป ก็ไปถึงเหมือนกัน ไม่ต้องคันเล็กเกินไปเพราะที่บ้านคนเยอะ ไม่ต้องเครื่องแรงเกินไปเพราะแค่ขับไปทำงาน ไม่

การดูแลเรื่องการเดินทาง (สำหรับทุกคนที่ไม่ใช้ยานพาหนะของตนเอง)

การวางแผนการเดินทางต่างๆ หากเราต้องไปต่างประเทศ จำเป็นอย่างมากที่ต้องทำประกันอุบัติเหตุ หรือ ประกันการเดินทางไว้ด้วย เพราะมันแพงมากสำหรับนักท่องเที่ยว การเดินทางภายในประเทศต้องศึกษาว่ามีส่วนลดตรงไหน เวลารถวิ่ง ช่วงเวลาหนาแน่น ปัญหาจากสภาพอากาศที่เกิดขึ้นมีผลต่อการเดินทางไหม เพื่อเราจะได้เดินทางอย่างมีความสุขและประหยัด

การดูแลเรื่องการทำงาน

การทำงานปัจจุบันเรามีความพร้อมในการทำงานบนทัศนคติแบบไหน ทำไปเรื่อยๆ ทำให้เสร็จๆ ทำให้ดี ทำให้เร็ว ทำให้เรียบร้อย ทำให้ได้มากกว่า 1 อย่าง ทำให้มีประสบการณ์จนชำนาญ ทำให้มีความสุข ทำให้ตัวเรามีโอกาส เราเลือกทำแบบไหนกัน เพราะอาชีพที่มั่นคงที่สุดตอนนี้ น่าจะกลายเป็นเราทำอะไรอยู่กันแน่แล้วละครับ 

การดูแลเรื่องความสุขทางใจ

วุ่นวายในการดำเนินชีวิตมากขึ้นเท่าไหร่ ความสุขทางใจยิ่งจำเป็นมากขึ้นกว่านั้น เพราะเราไม่ได้ทำงานหรือวุ่นวายตลอดเวลาได้หรอกต้องหัดอยู่เงียบๆอยู่กับตัวเองบ้าง อยู่กับโลกที่ไม่ต้องการอะไรบ้าง อยู่กับสิ่งที่เราไม่ต้องไขว้คว้าบ้าง เพราะใจที่สงบนิ่งทำให้เกิดความสุขที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อเลย และ เป็นการปลดปล่อยกิเลสให้ลดลง ลดการอยากได้อยากมีไปบ้างใจก็เบา

การดูแลเรื่องอาหาร

อาหารก็สำคัญสำหรับชีวิต ไม่ว่าจะแบบไหน แบบสายเนื้อ สายผัก สายกลาง สายไหนก็ไม่สำคัญเท่าเลือกสายที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ไม่ใช่เอาแต่อร่อย ไม่ต้องมาก แค่พอดี ไม่น้อยเกินไป ไม่มากเกินไป คือดี 

การดูแลเรื่องส่วนรวม (ญาติพี่น้อง)

อย่ามัวแต่เอาประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง ลองมองไปรอบๆด้วยว่าญาติพี่น้องเป็นอย่างไร มีโอกาสเผื่อแผ่ความสุขอะไรให้เค้าได้บ้าง ดูแลอะไรให้กันได้บ้าง ไม่ต้องมากเช่นกัน เพราะทุกคนไม่ได้ต้องการให้มาสงสารแต่ต้องการที่จะมีมิตรภาพที่ดีเสมอแค่นั้น

การดูแลสังคม

สังคมของเรา หากเราทำอะไรที่ดีได้ก็ทำไปเถอะครับ เราอยู่ในสังคมเดียวกัน มีแย่มีดี ปนๆกันไปช่วยอะไรได้ก็ช่วยกัน ไม่ต้องสนใจอะไรบ้างก็ได้ เพราะมันคงไม่ได้แย่ไปทั้งสังคมหรอก แต่เราต้องช่วยกันให้เรื่องดีๆเกิดขึ้นในสังคม

จะเห็นได้ว่าในหมวดหมู่ที่เราแยกแยะไว้นั้นเป็นเรื่องรอบๆตัวเราทั้งนั้น ซึ่งทุกเรื่องเป็นเรื่องปกติแต่หากพิจารณาดีๆ ทุกเรื่องหากคิดก่อนวางแผนก่อนก็จะทำให้สิ่งที่เกิดขึ้น ดี ทั้งนั้น หากจะแย่ก็ไม่แย่จนรับไม่ได้หรือตั้งตัวไม่ทัน สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้มีบทเรียนหลายอย่างที่สะท้อนให้เราต้องหัดคิดใหม่ และวางแนวทางในการดำเนินชีวิตกันใหม่ อย่ายึดติดที่ความมั่นคงจากภายนอก ควรยึดปัจจุบันและการกระทำของเราให้ชัดเจนว่าเราได้ทำและพยายามไปแค่ไหนในวันนี้ มีอะไรที่เรายังทำได้ไม่ดีบ้างก็ปรับปรุงใหม่ องค์กรที่ว่ามั่นคงยังล้มได้ เราแค่ตัวเล็กๆหากจะบอกว่าไม่มีโอกาสล้ม คงประเมินสูงไป ควรปรับให้ความเสี่ยงอยู่ในการดูแลมากกว่าปล่อยให้มีอิทธิพลต่อเรามากเกินไป เวลา ไม่เคยรอใครให้มานั่งแก้ไข มีแต่เวลาสำหรับการทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่านั้นที่เราพอจะควบคุมได้ "ความเสี่ยง" ที่สำคัญคือตัวเราจะพาตัวเราไปหาความเสี่ยงในรูปแบบใดกันแน่ตั้งหากที่เป็นความเสี่ยงที่แท้จริง อย่าประมาทกับชีวิต จนต้องเสี่ยง

นิพนธ์ ศรแก้ว

บ.ล๊อกแมท อินทิเกรชั่น จก.

กรรมการผู้จัดการ